รถสตาร์ทไม่ติด “เมื่อรถยนต์คันเก่งของคุณสตาร์ทไม่ติด”สาเหตุจาก?

แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ โดยคุณลักษณะของแบตเตอรี่รถยนต์ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานเริ่มต้นสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยจะจ่ายพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กับไดสตาร์ทเป็นปริมาณมหาศาล เมื่อเที่ยบกับปริมาณความจุในแบตเตอรี่เอง และยังต้องรับพลังงานแรงดันไฟฟ้าจากไดชาร์จ ขณะทำการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่เมื่อเวลาใช้รถ ดังนั้นลักษณะพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ของคุณ จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับระยะเวลาอายุการใช้งาน ซึ่งโดยเฉลี่ยแบตเตอรี่จะใช้งานได้อยู่ที่ประมาณ 2ปี

 

มอเตอร์สตาร์ทไม่ทำงาน มอเตอร์สตาร์ทหรือที่เรียกกันโดยทั่วไป “ไดสตาร์ท” นั้นหน้าที่หลักคือการฉุดหมุนเครื่องยนต์ตลอดจนเครื่องยนต์ติด ถ้าระบบสตาร์เครื่องยนต์มีปัญหาก็แน่ชัดได้ว่าตัวเครื่องยนต์เองก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างแน่นอน ซึ่งชั่วโมงการทำงานของระบบไดสตาร์ทเองก็มีส่วนสำคัญ เพราะการสตาร์ทเครื่องยนต์ในแต่ละครั้งนั้น ไดสตาร์ทเองก็ต้องรับภาระอย่างหนักหน่วงในการฉุดหมุนเครื่องยนต์ จึงเป็นธรรมดาที่จะเกิดความสึกหรอสะสมจากการใช้งาน และการเลือกใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เองก็มีส่วนสำคัญที่จะยืดอายุการใช้งานของระบบไดสตาร์ท

ซึ่งลักษณะอาการไดสตาร์ทเสียจะคล้ายคลึงกับแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ขณะสตาร์ทรถจะมีเสียง “แต๊กๆๆ” ในขณะที่แบตเตอรี่ยังมีค่าความจุไฟฟ้าเป็นปกติ

 

ปั้มดูดน้ำมันเชื้อเพลิงเสีย “ปั้มติ๊ก” ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือ “ปั้มติ๊ก” ลักษณะหน้าที่ของปั้มติ๊กคือดูดน้ำมันจากถังน้ำมันเชื้อเพลิงส่งไปยังเครื่องยนต์ เมื่อปั้มติ๊กเสียน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่สามารถถูกนำไปจุดระเบิดเครื่องยนต์ได้นั่นเอง เหตุที่ปั้มติ๊กเสื่อมสภาพหรือชำรุด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นถังน้ำมันมีสิ่งแปลกปลอมสะสมคราบฝุ่นผงสนิม ตลอดจนการปล่อยให้ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่ต่ำเป็นเวลานานๆ ส่วนผสมของอากาศที่ถูกดูดเข้ามา พร้อมกับน้ำมันก็มีผลทำให้อุปกรณ์ชำรุดเสียหายได้เช่นกัน

ขั้วแบตเตอรี่คราบสกปรก แบตเตอรี่รถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะอาจจะเกิดคราบเกลือสีขาวปนฟ้าบนขั้วแบตเตอรี่ ซึ่งคราบเหล่านี้ถ้าสะสมมาเป็นเวลานานก็อาจส่งผลให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างสมบูรณ์เท่าที่ควร ซึ่งบางรายมักจะเกิดคราบเกลือจำนวนมากกัดกร่อนทำให้ขั้วแบตชำรุดเสียหาย ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถส่งพลังงานไปยังไดสตาร์ทได้อย่างเต็มที่ เป็นเหตุให้ระบบสตาร์ทไม่มีกำลังพอในการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นเอง

ซึ่งการปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาคราบสกปรกนั้น ก็สามารถทำได้เองแบบไม่ยากด้วยตนเอง โดยการคอยเช็ดทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ก่อนเกิดคราบสกปรก หรือหากเกิดคราบสกปรกแล้วก็สามารถจัดการได้ ด้วยการใช้น้ำโซดาร่วมกับแปรงสีฟันค่อยๆ ขัดออกเท่านั้นเองเพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลเวียนได้อย่างเต็มที่

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top